ก่อนอื่นขอเกรินก่อนะคะ เราเป็นผู้หญิงคะ ซึ่งมีความสับสนว่าตัวเองชอบเพศไหนกันเเน่ เรามีเพื่อนคนนึงคะ เป็นผู้หญิง คบกันมา มากกว่า 10 ปี+ สนิทถึงขั้นเล่าเรื่องทุกอย่าง ในชีวิตให้ฟัง จนวันนึงความรู้สึกเราไปเปลี่ยนไปคะ คิดเกินเพื่อน เริ่มน้อยใจ เริ่มหึงหวง เเต่เราก็ไม่ชัดเจนกับเขานะว่าเรารู้สึกอย่างไง ไม่กล้าบอก กลัวเสียเพื่อน เพื่อนเราเป็นเป็นคนหน้าตาดี มีทั้งผช./ทอม/ผญ เพื่อนเรามันเปิดคะ เคยคบมาเเล้วทั้งหมด จนช่วงม.ปลายมีคนมาจีบเพื่อนเราคะ เป็นรุ่นน้องทอม เรารู้สึกว่าเราไม่โอเค เราเลยถอยห่าง ไม่คุยกันเหมือนเเต่ก่อน พูดจาไม่ดีใส่เขา เพื่อทำให้เขาเกลียดเรา เราจะได้ตัดใจได้ง่ายขึ้น หลังจากเรียนจบม.ปลายปี 51 เราก็ไม่ได้ติดต่อกันเหมือนเก่าคะ เราหายไปจากชีวิตเขาเลยคะ เเต่ก็ยังรับรู้นะคะ ว่าเขากำลังคุยกะใคร เพราะมีอยู่ครั้งนึงคะ เขาโทรมาเล่าเรื่องคนที่เขาชอบให้เล่าฟัง เราก็ฟังคะ เเล้วก็ให้คำเเนะนำไปบ้างเท่าที่เราทำได้ ถามว่าความรู้สึกเราเป็นไงหลอ มันรู้สึกเจ็บแบบหน่วงๆ คะ เจ็บเเบบทน ได้ เราหลบหน้าเขาไม่ค่อยได้ไปเจอกันเหมือนก่อน เพราะเราเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันที่ต้องนัดเจอกันนัดเที่ยวกัน มีบ้างที่ไปเจอกันนาน ๆ โดยระยะเวลาที่ผ่านมาเราตั้งปฏิธานกับตัวเองว่าเราจะจบเรื่องนี้ให้ได้ เราใช้เวลาประมาณ 6-7 ปี กว่าเราจะยอมรับเเละให้เรื่องราวเหล่านี้หายไปจากความคิดเรา เราทำทุกอย่างที่เราทำได้ เช่น ตัดใจไม่ส่อง บล็อคไลน์ บล็อค IG เพื่อจะไม่ให้ตัวเองฟุ้งซ่าน จนในที่สุดเราคิดว่าเรโอเคเเล้ว พร้อมเเล้ว พร้อมจะกลับไปทำหน้าที่เพื่อนเเล้ว เราตัดสินใจกลับไปคะ กลับไปทัก กลับไปพูดคุยกะเขาเหมือนเดิม เเต่มันไม่เหมือนเดิมคะในความรู้สึก มันไม่สนิทใจเหมือนก่อน
จนล่าสุดคะ เมื่อปี 61 เราคุยกันมากขึ้นเเละสัญยาว่าจะกลับมาให้เป็นเหมือนเดิม เราเลยบอกความในใจทั้งหมดที่มีคะ ว่าเเต่ก่อนเราชอบเเกนะ เเต่ตอนนี้เราทำใจได้เเล้ว พร้อมทั้งบอกกับเขาว่าเราสบายใจมากที่มีโอกาสได้บอก พร้อมทั้งบอกว่า เเกอย่าหายไปไหนนะ เราขอโทษที่เราต้องบอก มันอึดอัดมาก เพื่อนเราเมื่อได้ฟังคำสารภาพ เขาหายไปประมาณ 2 วันคะ ระหว่างนี้เรากลัวมาก เรากลัวเขารับไม่ได้ เเละไม่คุยกะเราอีก สุดท้ายเขากลับมาคะ ไม่ได้บอกอะไรมา ก บอกเเค่อยากรู้คำตอบนี้มานาน เราฟังเราไม่รู้สึกยินดีอะไรนะ เพราะเราตั้งใจเเล้วว่า คำตอบจะเป็นอย่างไงไม่สำคัญอีกต่อไปแแล้ว ต่อไปนีเราจะไม่คาดหวังกับความสัมพันธ์ ขอเเต่เป็นเพื่อนที่ดี หวังดีต่อกันพอเเล้ว จนช่วงเมื่อปี 61 เราเริ่มคุยกันมากขึ้น มีน้อยใจ มีหยอดคำหวานใส่กันอีก เราจะบ้าตาย มันหวั่นไหวเเบบบอกไม่ถูก ต้องห้ามใจตัวเอง เเละนึกถึงคำพูดที่เราเคยตั้งปริธานไว้ เขาเริ่มเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง เรื่องส่วนตัว เรื่องงาน เรื่องคนที่เขามาจีบ เราอะหลอรู้สึกนะ มันเหมือนกลับไปวงจรเดิมอะ ยิ่งถ้าเขาเล่าเรื่องคนมาจีบหรือเขามีคนคุย เราจะถอยออก ทันที เพราะเรากลัว ตอนนี้เราสับสนมากเขาเล่าเเต่เรื่องคนที่มาจีบให้เราฟังตลอด เราเลยบอกว่า เราขอรักาาระยะห่าง อย่าคิดอย่างอื่นนอกจากเพื่อนกับเราอีกเลย เพราะเราคุยกันทุกวันเขาจะหลอดเราตลอด จนเรารู้สึกว่าหวั่นไหว รู้สึกอึดอัด อย่างบอกไม่ถูก เราไม่รู้จะต้องทำอย่างไงดี เราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม เรากลัวมากตอนนี้ เราจะต้องทำไงดี ใครเคยเจอสถานการณ์นี้ไหม
จะต้องจัดการกับความรู้สึกตัวเองอย่างไงดี??
จนล่าสุดคะ เมื่อปี 61 เราคุยกันมากขึ้นเเละสัญยาว่าจะกลับมาให้เป็นเหมือนเดิม เราเลยบอกความในใจทั้งหมดที่มีคะ ว่าเเต่ก่อนเราชอบเเกนะ เเต่ตอนนี้เราทำใจได้เเล้ว พร้อมทั้งบอกกับเขาว่าเราสบายใจมากที่มีโอกาสได้บอก พร้อมทั้งบอกว่า เเกอย่าหายไปไหนนะ เราขอโทษที่เราต้องบอก มันอึดอัดมาก เพื่อนเราเมื่อได้ฟังคำสารภาพ เขาหายไปประมาณ 2 วันคะ ระหว่างนี้เรากลัวมาก เรากลัวเขารับไม่ได้ เเละไม่คุยกะเราอีก สุดท้ายเขากลับมาคะ ไม่ได้บอกอะไรมา ก บอกเเค่อยากรู้คำตอบนี้มานาน เราฟังเราไม่รู้สึกยินดีอะไรนะ เพราะเราตั้งใจเเล้วว่า คำตอบจะเป็นอย่างไงไม่สำคัญอีกต่อไปแแล้ว ต่อไปนีเราจะไม่คาดหวังกับความสัมพันธ์ ขอเเต่เป็นเพื่อนที่ดี หวังดีต่อกันพอเเล้ว จนช่วงเมื่อปี 61 เราเริ่มคุยกันมากขึ้น มีน้อยใจ มีหยอดคำหวานใส่กันอีก เราจะบ้าตาย มันหวั่นไหวเเบบบอกไม่ถูก ต้องห้ามใจตัวเอง เเละนึกถึงคำพูดที่เราเคยตั้งปริธานไว้ เขาเริ่มเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง เรื่องส่วนตัว เรื่องงาน เรื่องคนที่เขามาจีบ เราอะหลอรู้สึกนะ มันเหมือนกลับไปวงจรเดิมอะ ยิ่งถ้าเขาเล่าเรื่องคนมาจีบหรือเขามีคนคุย เราจะถอยออก ทันที เพราะเรากลัว ตอนนี้เราสับสนมากเขาเล่าเเต่เรื่องคนที่มาจีบให้เราฟังตลอด เราเลยบอกว่า เราขอรักาาระยะห่าง อย่าคิดอย่างอื่นนอกจากเพื่อนกับเราอีกเลย เพราะเราคุยกันทุกวันเขาจะหลอดเราตลอด จนเรารู้สึกว่าหวั่นไหว รู้สึกอึดอัด อย่างบอกไม่ถูก เราไม่รู้จะต้องทำอย่างไงดี เราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม เรากลัวมากตอนนี้ เราจะต้องทำไงดี ใครเคยเจอสถานการณ์นี้ไหม